เรื่องเล่ากะเหรี่ยง/zLyHpAifgzksfC6f];f5jif/

กะเหรี่ยงกับช้าง

กะเหรี่ยงกับช้าง

ปกากะญอกับช้าง
ความสัมพันธ์ของคนกับช้าง

ถ้าพูดถึงคนกับช้าง ลาวกับกะเหรี่ยง จะอยู่กับช้างมาตลอด ตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว จากคำบอกเล่าของพ่อเฒ่า ชัย กาทู ผู้ก่อตั้งทัวร์ช้าง บ้านรวมมิตร จ.เชียงราย กล่าวว่า "ถ้าพูดตรง ๆ คนกับช้างจะอยู่ร่วมกันมา ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษมาแล้ว ลาวกับกะเหรี่ยงและคนเมืองทางใต้ ทางอุตรดิตถ์ จะมีความผูกพันธ์กับช้างมาเป็นเวลายาวนาน และเลี้ยงช้างมาโดยตลอด" ตัวอย่างเช่น กะเหรี่ยงทาง จ.แม่ฮ่องสอน จะอยู่กับช้างมานาน เริ่มตั้งแต่รุ่นปู่ทวดมาแต่ก่อนแล้ว ทางแม่สะเรียง กะเหรี่ยงที่นั่นเลี้ยงช้างแบบปล่อยไว้ เพราะเมื่อก่อน ถนนทางยังไม่มีและไม่มีทางรถผ่านเข้าไป หมู่บ้านที่นั่นจะเป็นทางป่าเป็นส่วนใหญ่ ลำบากต่อการขนส่งสเบียงอาหาร กะเหรี่ยงที่นั่นจึงเลี้ยงช้างไว้เพื่อใช้เป็นยานพาหนะ ในการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ จนกระทั้งใช้ลากไม้ซุง ทำบ้านเรือน ช่วงปลูกข้าวเกี่ยวข้าวเสร็จ จะใช้แรงงานช้างในการขนส่งมาเก็บไว้ในยุ้งฉาง การทำงานทุกอย่างแทบที่จะใช้แรงงานช้างเป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้นช้างจึงเปรียบเสมือนเพื่อนคู่ชีพของชนเผ่ากะเหรี่ยงมาจนถึงปัจจุบัน

กล่าวถึงตำนานของกะเหรี่ยงกับช้าง
มีตำนานเรื่องหนึ่งของชาวกะเหรี่ยงว่า เมื่อสมัยก่อนมีเด็กพี่น้องอยู่สองคน วันหนึ่งแม่สั่งให้อยู่บ้านเฝ้าบ้านไว้ ก่อนที่แม่จะออกไป แม่ได้สั่งเด็กทั้งสองไว้ว่า อย่าเปิดฝากระบอกไม้ไผ่ ซึ่งมีแมลงวันอยู่ในนั้น แล้วแม่ก็ออกไป แต่ด้วยความซุกซนของเด็กทั้งสอง จึงลองเปิดฝากระบอกไม้ไผ่นั้นดู ทันใดนั้นแมลงวันจึงบินออกมาจากกระบอกไม้ไผ่ และบินเข้าไปในจมูกของเด็กทั้งสองนั้นทันที จากนั้นเด็กทั้งสองเริ่มมีอาการคันตามเอวตามตัว แข้งขาเริ่มใหญ่ยาวขึ้น จมูกเริ่มยาวขึ้น เมื่อแม่กลับมาเห็น ก็ตกใจเห็นท่าทีเด็กสองคนนี้ใช้ไม่ได้แล้ว เอาข้าวให้กินก็ไม่กิน เอานํ้าให้กินก็ไม่กิน จากนั้นไม่นานเด็กทั้งสองคนก็เริ่มออกจากบ้านหาหญ้ากิน ตัวโตขึ้นเรื่อย ๆ และกลายพันธ์มาเป็นช้าง ในขณะเดียวกันมีผู้เฒ่า 2 คน มาเห็นเข้าแล้วได้กล่าวว่า คนที่กลายเป็นช้าง จะอยู่ร่วมกันไม้ได้ คนต้องใช้แรงงานช้าง เพราะช้างพูดภาษาคนไม่ได้แล้ว พอนึกได้ดังนั้นจึงเรียกเด็กทั้งสองที่กลายเป็นช้างแล้วมา แล้วให้แลบลิ้นออก แล้วจึงทำการทอนลิ้นช้าง แล้วเสียบกลับด้านกัน (ถ้าสังเกตดูดี ๆ ช้างจะมีลิ้นกลับด้านกันไม่เหมือนสัตว์ประเภทอื่น) จากนั้นช้างก็เริ่มกลายพันธุ์มาเรื่อย สืบพันธุ์กันมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันนี้

ช้างปัจจุบันกับการกลับมาทำทัวร์ช้าง
จากคำบอกเล่าของผู้จัดการทัวร์ช้างชาวกะเหรี่ยงบ้านรวมมิตร จ. เชียงราย ได้กล่าวว่า สมัยก่อนชนเผ่ากะเหรี่ยงจะใช้ช้างลากไม้ซุง ทำป่าชลประทาน แต่มาปัจจุบันนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ทำการปิดป่าเป็นป่าสงวน ตั้งแต่แรกเริ่ม คนเฒ่าคนแก่ เมื่อก่อนเขาทำไม้มา ภายหลังมีการปิดป่า จึงเลิกทำไม้ เห็นว่า หมู่บ้านรวมมิตร จ.เชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีอยู่จุดหนึ่ง จะมาทางเรือก็ได้ หรือมาทางรถก็ได้อยู่บ้านรวมมิตรสามารถไปที่ยังหมู่บ้านชาวเขาได้หลายที่ อย่างเช่น จะไปหมู่บ้านลาหู่ก็ได้ ไปอาข่าก็ได้ ไปบ้านเมี่ยนก็ได้ รอบหมู่บ้านก็ได้ ฉะนั้นนักท่องเที่ยวจึงแลเห็นความสะดวกสะบาย ก็เลยมาเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมาถึงทุกวันนี้ แหล่งที่มาของช้างที่นำมาทำเป็นทัวร์ ส่วนใหญ่จะเป็นช้างที่มาจาก อ.แม่สะเรียง และ อ.แม่ฮ่องสอน ช้างเหล่านี้ถูกเลี้ยงเพื่อใช้ลากไม้ซุงในสมัยก่อนเมื่อเลิกทำไม้ จึงนำมาทำเป็นทัวร์ช้างเพื่อจะได้รักษาช้างไว้ให้คู่กับกะเหรี่ยงตลอดไป

ความรักความผูกพัน
จากคำให้สัมภาษณ์ของควาญช้างชาวกะเหรี่ยงได้กล่าวว่า "ถ้าพูดถึงช้าง จะรักเหมือนลูกเหมือนเมียคนหนึ่ง บางครั้งกลางดึก ได้ยินเสียงช้างร้องในป่าก็ต้องวิ่งไปดูจะมืดจะคํ่าก็ต้องไป" ถ้าพูดถึงความรักก็จะรักมาก บางครั้งเอากลับมาจากป่าต้องดูแลอย่างดี หากติดโรคผิวหนังกลับมา ก็ต้องหาซื้อยามาใส่ให้ รักเขาเหมือนลูกดูแลเขาเหมือนเด็กคนหนึ่ง ที่บางครั้งเล็บมือเล็บเท้าแตก ต้องรีบหายามาใส่ให้ เมื่อก่อนเคยมีช้างตาย 1 ตัว เสียใจและร้องไห้มากเหมือนญาติของเราเสียคนหนึ่ง ไม่เคยเรียนหนังสืออยู่กับช้างมาตั้งแต่ยังเล็กจนโต ไม่เคยทอดทิ้งหรือห่างเหินกันมาก่อนเลย ถ้าไม่ได้เห็นน่ากันก็เหมือนไม่มีความสุข จะเปรียบเทียบก็เหมือนครูไปสอนหนังสือเด็กทุกวัน หากวันใดไม่ได้ไปสอน ก็เหมือนขาดอะไรไปสักอย่างหนึ่งเหมือนไม่มีความสุข บางวันได้เงินบ้าง หรือไม่ได้เลย ก็ขอให้ได้ดูแลเขา ได้ไปย้ายที่เขา ได้เอานํ้าให้กินแค่นี้มันก็เป็นสุขแล้ว

ช้างปัจจุบันกับการกลับมาทำทัวร์ช้าง
จากคำบอกเล่าของผู้จัดการทัวร์ช้างชาวกะเหรี่ยงบ้านรวมมิตร จ. เชียงราย ได้กล่าวว่า สมัยก่อนชนเผ่ากะเหรี่ยงจะใช้ช้างลากไม้ซุง ทำป่าชลประทาน แต่มาปัจจุบันนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ทำการปิดป่าเป็นป่าสงวน ตั้งแต่แรกเริ่ม คนเฒ่าคนแก่ เมื่อก่อนเขาทำไม่มา ภายหลังมีการปิดป่า จึงเลิกทำไม้ เห็นว่า หมู่บ้านรวมมิตร จ.เชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีอยู่จุดหนึ่ง จะมาทางเรือก็ได้ หรือมาทางรถก็ได้อยู่บ้านรวมมิตรสามารถไปที่ยังหมู่บ้านชาวเขาได้หลายที่ อย่างเช่น จะไปหมู่บ้านลาหู่ก็ได้ ไปอาข่าก็ได้ ไปบ้านเมี่ยนก็ได้ รอบหมู่บ้านก็ได้ ฉะนั้นนักท่องเที่ยวจึงแลเห็นความสะดวกสะบาย ก็เลยมาเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมาถึงทุกวันนี้ แหล่งที่มาของช้างที่นำมาทำเป็นทัวร์ ส่วนใหญ่จะเป็นช้างที่มาจาก อ.แม่สะเรียง และ อ.แม่ฮ่องสอน ช้างเหล่านี้ถูกเลี้ยงเพื่อใช้ลากไม้ซุงในสมัยก่อนเมื่อเลิกทำไม้ จึงนำมาทำเป็นทัวร์ช้างเพื่อจะได้รักษาช้างไว้ให้คู่กับกะเหรี่ยงตลอดไป

ความรักความผูกพัน
จากคำให้สัมภาษณ์ของควาญช้างชาวกะเหรี่ยงได้กล่าวว่า "ถ้าพูดถึงช้าง จะรักเหมือนลูกเหมือนเมียคนหนึ่ง บางครั้งกลางดึก ได้ยินเสียงช้างร้องในป่าก็ต้องวิ่งไปดูจะมืดจะคํ่าก็ต้องไป" ถ้าพูดถึงความรักก็จะรักมาก บางครั้งเอากลับมาจากป่าต้องดูแลอย่างดี หากติดโรคผิวหนังกลับมา ก็ต้องหาซื้อยามาใส่ให้ รักเขาเหมือนลูกดูแลเขาเหมือนเด็กคนหนึ่ง ที่บางครั้งเล็บมือเล็บเท้าแตก ต้องรีบหายามาใส่ให้

เมื่อก่อนเคยมีช้างตาย 1 ตัว เสียใจและร้องไห้มากเหมือนญาติของเราเสียคนหนึ่ง ไม่เคยเรียนหนังสืออยู่กับช้างมาตั้งแต่ยังเล็กจนโต ไม่เคยทอดทิ้งหรือห่างเหินกันมาก่อนเลย ถ้าไม่ได้เห็นน่ากันก็เหมือนไม่มีความสุข จะเปรียบเทียบก็เหมือนครูไปสอนหนังสือเด็กทุกวัน หากวันใดไม่ได้ไปสอน ก็เหมือนขาดอะไรไปสักอย่างหนึ่งเหมือนไม่มีความสุข บางวันได้เงินบ้าง หรือไม่ได้เลย ก็ขอให้ได้ดูแลเขา ได้ไปย้ายที่เขา ได้เอานํ้าให้กินแค่นี้มันก็เป็นสุขแล้ว

ที่มา : http://www.hilltribe.org/thai/karen/karen-karenandelephant.php

เอกสารเพิ่มเติม : ดาวน์โหลด (4 kb)

เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2553 | อ่าน 3011
เขียนโดย เจ้าหน้าที่ดูแลระบบ KARENTHAI.COM